ประวัติมีดกรีดยางนกเงือก
คุณมะนายิ ราหู เป็นลูกหลานของชาวสวนยางที่ อ.สุคีริน จ.นราธิวาส เป็นชาวสวนยางโดยกำเนิด จากการทำสวนยางมาเป็นระยะเวลายาวนานจึงมีความรู้ เชี่ยวชาญในการทำสวนยางจึงเห็นข้อบกพร่องและปัญหาต่างของมีดกรีดยางรุ่นเก่า [มีดเจ๊ะบง] ที่ใช้งานในปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นการออกแบบโดยชาวอังกฤษ เมื่อกว่า 100 ปี ที่ผ่านมา
โดยปัญหาต่างๆ ที่คุณมะนายิเห็นข้อบกพร่องมีดังนี้
จากปัญหาดังกล่าวนี้ จึงได้ออกแบบมีดกรีดยางใหม่ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาชาวบ้าน เทคโนโลยีสมัยใหม่และความสร้างสรรค์ทางการออกแบบ ในการนำเอาจุดเด่นของมีดกรีดยางรุ่นเก่า [มีดเจ๊ะบง] , มีดโกนชนิดเปลี่ยนใบมีดได้ และกบใสไม้แบบโบราณ คือ กบใสไม้ ตัวกบทำด้วยไม้และใบมีดเหล็ก จึงกลายเป็นมีดต้นแบบนวัตกรรมใหม่ มีดกรีดยาง นกเงือก ชนิดถอดเปลี่ยนใบมีดได้ ซึ่งได้จดอนุสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการป้องกันการลอกเลียนแบบ [อนุสิทธิบัตรเลขที่ 0303001096]
จุดเด่นมีดกรีดยางนกเงือก
“สะดวก และ ประหยัด”
ความเป็นไปได้ทางการตลาด และช่องทางในการเติบโตในอนาคต
ประเทศไทยมีคนกรีดยางประมาณ 1.5 ล้านคน ปัจจุบันการผลิตมีดกรีดยาง นกเงือก สามารถผลิตได้ต้องตามความต้องการของตลาด ตลาดให้การตอบรับเป็นอย่างดีมาก เปิดตลาดในครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2553 ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน งานยางพาราแห่งชาติ และในอนาคตอันไกล้จะเปิดตัวในตลาดต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนิเซีย
ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
การใช้วัสดุและภูมิปัญญาเป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิต
การผลิตมีดกรีดยางนี้ใช้วัสดุภายในประเทศ ด้ามมีดกรีดยางทำมาจากไม้ยางพารา ด้ามเหล็ก และใบมีดผลิตภายในประเทศ ผู้ออกแบบ : นายมะนายิ ราหู เป็นคนไทย เชื้อชาติไทยโดยกำเนิด ไม่ลอกเลียนแบบใครๆ
ไม่สร้างผลกระทบเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
เป็นมิตรต่อระบบนิเวศน์ ( ECO FRIENDLY ) และมีประโยชน์ทางสังคม มีดกรีดยางรุ่นใหม่ ทำให้รายได้ของคนกรีดยางเพิ่มขึ้น ช่วยชาวสวนยางในด้าน อายุผลผลิตเพิ่มขึ้นหรืออายุต้นยางเพิ่มขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงานกรีดยางเนื่องจากเป็นมีดกรีดยางใช้งานง่าย ใบมีดที่ใช้แล้วบริษัทรับซื้อคืนประเทศชาติจะได้ประโยชน์จากผลผลิตเพิ่มและยืดอายุต้นยางทำให้มีส่วนช่วยให้ระบบนิเวศน์ดีตามมาด้วย
|